ขั้นตอนการขอรับรองกับ ACT
ขั้นที่ 1 ศึกษาทำความเข้าใจและเตรียมชุดใบสมัคร
ศึกษาประเภทการรับรอง และ มาตรฐานเกษตรอินทรีย์
ขอแนะนำให้ผู้สมัคร เลือกประเภทการผลิต ตามลักษณะการผลิต / การประกอบการของท่านและตลาด
หลังจากนั้นจึงศึกษา มาตรฐาน Certification Alliance Organic Standard 2019 (สำหรับต้องการขอรับรองมาตรฐาน IFOAM และ EU) และมาตรฐานแคนาดา 2020 (COR) และทำการประเมินตนเองว่า สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานและเกณฑ์ข้อกำหนดต่างๆ ได้หรือไม่
เช่น นาย ACT เป็น ผู้ปลูกพืช และ แปรรูปเป็นอาหาร ต้องการขายสินค้าไปยัง สหภาพยุโรป
เพราะฉะนั้น นาย ACT ควรอ่านมาตรฐาน การผลิตพืช และ การแปรรูป โดยมุ่งเน้นไปยัง มาตรฐาน EU เป็นหลัก
มาตรฐานเกษตรอินทรีย์เป็นข้อกำหนดที่ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตาม โดย ACT จะใช้มาตรฐานนี้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาตัดสินรับรองการประกอบการของท่าน ดังนั้น ก่อนที่จะทำการสมัคร ผู้ประกอบการควรศึกษาข้อกำหนดในการผลิตแบบอินทรีย์ที่ขอการรับรองอย่างละเอียดและถี่ถ้วนเสียก่อน
การขอรับชุดใบสมัคร
ACT จะส่งไฟล์ชุดใบสมัครให้ทางที่อยู่อีเมล ผู้สมัครจะต้องกรอกข้อมูลในชุดเอกสารการสมัคร ซึ่งประกอบด้วย ใบสมัครและข้อตกลงการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และ แผนการผลิตตามประเภทที่ขอการรับรอง รวมทั้งเอกสารประกอบที่เกี่ยวข้อง
ขั้นที่ 2 การยื่นใบสมัครชำระค่าสมัคร
กรอกใบสมัครและเตรียมเอกสารประกอบ
การกรอกเอกสารเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะการให้ข้อมูลที่ถูกต้องจะทำให้ประเมินค่าใช้จ่ายในการตรวจรับรองได้ชัดเจน และจะมีประโยชน์ต่อตัวท่านเองในระยะยาว ท่านจึงควรมีเวลาเตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อนเพื่อให้ได้ถูกต้อง ใกล้เคียงกับการประกอบการของท่านมากที่สุด เมื่อผู้สมัครกรอกชุดใบสมัครครบถ้วนเสร็จสมบูรณ์และชำระค่าสมัคร 1,070 บาท ตามเลขที่บัญชีที่แจ้งไปพร้อมกับชุดใบสมัคร (ค่าสมัคร ไม่ใช่ค่าธรรมเนียมการขอรับรอง)
ส่งเอกสารและหลักฐานการชำระค่าสมัครมาที่ info@actorganic-cert.or.th เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะดำเนินการตรวจสอบใบสมัคร หรือ อาจจะเรียกเอกสารเพิ่มเติม
เพราะฉะนั้น ก่อนยื่นใบสมัครควรตรวจทานความครบถ้วนและเรียบร้อยของเอกสารทุกฉบับก่อน เพื่อมิให้การตรวจสอบใบสมัคร ่ลาช้าจนเกินไป
ขั้นที่ 3 การชำระค่าธรรมเนียมการขอรับรอง
เมื่อ ใบสมัคร เรียบร้อยแล้วจะออก ใบแจ้งค่าธรรมเนียมการขอรับรอง โดยจะประเมินค่าใช้จ่ายตามประเภท มาตรฐาน และรายละเอียดการประกอบการของผู้สมัคร ตามที่ระบุไว้ในใบสมัคร ผู้สมัครจะต้องชําระค่ําธรรมเนียมแล้วส่งหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมขอรับรอง
หลังจากการชําระค่ําธรรมเนียมผู้ขอรับรองจะได้รับการติดต่อจากฝ่ํายตรวจ ACT เพื่อนัดหมายการตรวจ ณ สถานที่ผลิต/ที่ประกอบการ
ขั้นที่ 4 การนัดตรวจประจำปีครั้งแรก
เป็นการตรวจที่สําคัญมากโดยจะตรวจ สถานที่ประกอบการทุกแห่งทีเกี่ยวข้อง และประเมินเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการได้ปรับความเข้าใจและวิธีการปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ที ได้สมัครขอการรับรอง
การตรวจครั้งแรกจะต้องมีการนัดล่วงหน้ากับผู้ประกอบการ
หลังการตรวจผู้ขอรับรองจะได้สําเนารายงานการตรวจ หากมีข้อบกพร่อง ผู้ตรวจจะแจ้งให้ทราบ และผู้ขอรับรองต้องเสนอมาตรการแก้ไข หรือดำเนินการแก้ไขในทันที พร้อมกับแจ้งการแก้ไขหรือมาตรการแก้ไขนั้น ให้ ACT
ขั้นที่ 5 พิจารณาและแจ้งผลการรับรอง
เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับรองของ มกท. จะพิจารณารับรองจากผลรายงานการตรวจ ประเด็นข้อบกพร่องที่พบและการแก้ไข แล้วแจ้งผลการรับรองให้ผู้ขอรับรองทราบ โดยออกเป็นจดหมายรับรองผลส่งให้ผู้ขอรับรองและให้ผู้ขอรับรองลงลายมือชื่อในใบตอบรับส่งกลับไปให้มกท.เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ขั้นที่ 6 ออกใบรับรอง
จากนั้นหากผู้ขอรับรองแก้ไขข้อบกพร่องสำคัญเรียบร้อยแล้ว และ เป็นผู้ประกอบการการผลิตพืชที่พ้นระยะปรับเปลี่ยนแล้วเท่านั้น ทาง ACT จะออกใบรับรองให้ (ใบรับรองจะหมดอายุทุกวันที่ 31 มีนาคม ของปีปฏิทินถัดไป และท่านจะเข้าสู่กระบวนการต่ออายุ)